top of page

Kalei & Ribbee Team in China 2-เซี่ยงไฮ้


วันแรกในเซี่ยงไฮ้ คาเลและชาวสคุณะริบบี ที่ประกอบไปด้วยผมและพี่ด่อง ต้องเดินทางไปยังงาน มิวสิคไชน่า ซึ่งถือเป็นงานแสดงเครื่องดนตรีที่น่าจะใหญ่ที่สุดในเอเชีย

ตัวงานแสดงจะแบ่งเป็นหลายฮอล ตามประเภทของเครื่องดนตรี ซึ่งนับว่าโชคดีมาก ที่บูทอะนุยนุยที่เราต้องไปใช้ชีวิตอยู่ เป็นบูทที่อยู่ในโซนเครื่องสายอะคูสติก

แล้วมันดีอย่างไร?

ถ้าเกิดเป็นบูทที่เป็นพวกเครื่องเคาะ ลองนึกสภาพของฮอลที่มีบูทอยู่ 100 บูท แต่ละบูทมีกลองตั้งอยู่อย่างน้อย 1 ชุด และอีร้อยชุดที่ว่าไม่ได้ตั้งอยู่เฉย แต่มันมีคนมาตีพร้อมๆ กันทั้งหมดดูสิครับ บูทพวกกีตาร์ไฟฟ้าก็เป็นไปในลักษณะเดียวกัน

ของภายในงานก็ไม่ได้มีของที่ต้องว้าวอะไร ส่วนมากจะเป็นโรงงานของผู้ผลิตจีน มาออกงานพบปะลูกค้าเสียมาก พวกผู้ผลิตจากแบรนด์ระดับโลกก็มีมาออกบูทอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มากนัก

ในช่วงค่ำ คณะของเราก็เดินทางออกจากงานมิวสิคไชน่า เพื่อเข้าเมืองมายังไลฟ์เฮาส์ที่จะมีการจัดแสดงคอนเสิร์ต ซึ่งสถานที่การจัดงานนั้นเป็นสถานที่ที่ไม่ใหญ่โตมาก โดยปกติแล้วจะใช้จัดงานแสดงดนตรีสดอยู่แล้ว ทำให้ระบบแสงเสียงมีความพร้อมพอสมคาร ส่วนข้อติที่นับได้ว่าแปลกประหลาดเลยก็คือห้องพักศิลปิน ที่มีทางเข้าออกอยู่ทางเดียว และทางออกที่ว่ามันก็อยู่บนเวที

กล่าวคือถ้าใครจะเดินเข้าไปยังแบคสเตจ ก็ต้องเดินขึ้นไปบนเวทีก่อน!!

ในคืนนั้น นอกจากคอนเสิร์ตของคาเลแล้ว ในงานยังมีการพ่วงการประกวดอูคูเลเล่เข้าไปด้วย ซึ่งตารางเวลาแบบพี่จีนเขาก็แปลกดี เขาเอาไฮไลท์คอนเสิร์ตมาแล่นก่อนเลย หลังจากนั้นก็ค่อยประกวดกัน

อย่างที่คาดการณ์กันไว้ หลังจากคาเลเล่นเสร็จ ผู้เข้าประกวดที่ต้องเล่นหลังจากนั้น ก็ล้วนแล้วแต่เล่นได้ไม่จี๊ดจ๊าดเท่าที่ควร เพราะคนดูได้ชิมของรสจัดไปก่อนหน้าแล้ว

แต่ก็ต้องยอมรับว่าผู้เล่นรุ่นใหม่จากเมืองจีนนั้นเล่นได้ดีทีเดียว บางคนก็เข้าขั้นโดดเด่นเลยด้วยซ้ำ คนที่เข้ารอบมาเป็น สิบๆ ราย ไม่มีใครเล่นไม่ดีเลย

ที่พูดได้เต็มปาก เพราะว่าผม พี่ด่องและคาเล ได้ฟังผู้เข้าประกวดทุกคนอย่างใกล้ชิด

...นั่นก็เพราะว่าหลังจากเล่นคอนเสิร์ตเสร็จในช่วงแรก ช่าวคณะริบบีและคาเล ได้โดนขังอยู่ในห้องหลังเวทีออก มาไม่ได้นั่นเอง

-------

bottom of page